พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร "คนต่างชาติมากกว่าคนไทย"
อยู่ในบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล หรือส่วนหนึ่งของที่ประทับวังหน้า (พื้นที่พระราชวังของสมเด็จพระบวรราชเจ้าตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เป็นต้นมามีอาณาเขตตั้งแต่บริเวณมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนามหลวงตอนเหนือ อนุสาวรีย์ทหารอาสา และโรงละครแห่งชาติในปัจจุบัน) ในสมัยรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ที่ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงละครแห่งชาติ ตรงข้ามสนามหลวง ประกอบด้วยหมู่พระที่นั่งต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย หมู่พระวิมาน พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ และ อาคารมหาสุรสิงหนาท
ในวันที่อากาศร้อน ตอนบ่ายๆเลิกจากเลิกเรียนเลยตัดสินใจกับเพื่อนว่าเราควรจะหาอะไรทำดีไปไหนดี เลยตัดสินใจไป พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งอยู่ไม่ใกล้จากมหาลัยสวนสุนันทา มากนัก ค่ารถก็ถูก ค่าเข้าก็ไม่เสีย รถหลายสายผ่าน เดินทางไม่นานมาก เมื่อเราเข้ามาถึงก็ให้ไปทางซ้ายมือจะเห็น เคาเตอร์สำหรับติดต่อ ต้องทำการฝากกระเป๋าสะก่อน ถ้าเป็นนักศึกษาหรือนักเรียนเข้าฟรี ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวก็ บัตรปลีก คนไทย 30 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท บัตรรวม คนไทย 60 บาท ชาวต่างประเทศ 350 บาท แต่ตอนที่ไป รู้สึกนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเยอะมากกว่าคนไทยอยู่ ดูแล้วเค้าจะสนใจประวัติศาสตร์พวกเราพอควรเลย การจัดแสดง เป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1. ประวัติศาสตร์ชาติไทย 2. ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี 3. ประณีตศิลป์และชาติพันธุ์วิทยา 4. อาคารโบราณสถาน
ในส่วนแรกจะบอกถึง ประวัติศาสตร์ ความเป็นไทยตั้งแต่เริ่มถึงปัจจุบันเลย ได้ความรู้เยอะมาก แต่ตอนไปก็มีบ้างส่วนที่ปรับปรุงอยู่บ้าง ให้ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามใช้แฟสช เดินชมได้เรื่อยๆเลย
มีของเก่าในสมัยก่อนมากมายที่จัดโชว์ ทั้ง กลอง ปืนยาว เสื้อยันต์ ตู้ใส่หนังสือ มีหมอนรองรถไฟของเก่าโชว์อยู่ด้วย
![]() |
| เรือสำเภาสมัยก่อน |
นี่เป็น จำลองหอคอยที่ต่างชาติมาสร้างที่ไทย กับ ตู้โทรศัพท์สมัยก่อน
ต่อไปเราจะพาไป พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ตำหนักแดง เป็นส่วนหนึ่งของพระตำหนักในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดฯ ให้สร้างพระราชทานสมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ต่อมาเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ 2 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งหลังและภายในเป็นสีแดงหมด แบ่งเป็น 2 ห้อง ห้อง รับแขก พักผ่อนกับ ห้อง บรรทม ในส่วนห้อง บรรทม จะมีของเก่าโชว์อยู่ เช่น กระจก เครื่องแต่งหน้า รองเท้าที่เคยใช้สำหรับพระองค์
หลังจากเสร็จส่วนนี้เราก็เดินเข้าไปยังภายในกันต่อ ก็จะเจอตึก ประมาณ3ชั้น จะเป็นส่วนจัดแสดงโบราณวัตถุต่าง เช่น ศิลปะทวารวดี ศิลปะศรีวิชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์ แบ่งเป็นชั้นๆไป
ส่วนใหญ่ที่โชว์แสดงจะหนักไปทาง ศิลปะของทางอินเดีย ส่วนใหญ่ ขุดค้นพบมาทั้งนั้น แต่ขนาดที่เดินอากาศออกจะร้อนสะหน่อย ก็อย่าเพิ่งหงุดหงิดไปขอ สวยงามสวยๆทั้งนั้น
ส่วนใหญ่ โบราณวัตถุที่ค้นพบ จัดว่าสมบูรณ์พอสมควรเลย อาจจะมีบ้างอย่างที่ ขาดหายไปบ้าง ยิ่งทำให้เรารู้ในแต่ละช่วงรุ่งอายุนั้นๆ ว่า ประวัติศาสตร์ เป็นยังไงบ้าง
ครึ่งหนึ่งของตึก จะจัดโชว์ ในส่วนที่บอกถึงศาสนาในช่วงนั้น ความเป็นมา โบราณวัตถุที่แสดงถึงวีถีชีวิต เช่น โสม สูตร ท่อรางน้ำ สมัยก่อน จากพุทธสถานบุโรพุทธโธ ประเทศอินโดนีเชีย
ด้วยอากาศที่หลัง เลยเดินต่อได้ไม่มากนักเลย แวะที่ พระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ เป็นที่สุดท้าย
ประวัติว่า ไว้ ดังนี้ " เดิมเรียกว่าพระที่นั่งวงจันทร์ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯให้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับ ลักษณะเป็นอาคารทรงยุโรป 2 ชั้น มีเฉลียงบันไดทางขึ้นอยู่ทางด้านหน้า ชั้นล่างเป็นที่อยู่ของพนักงาน ชั้นบนเป็นที่ประทับ แบ่งพื้นที่ด้านหน้าเป็นเฉลียงโถง ด้านหลังเป็นเฉลียงทึบ ในประธานแบ่งเป็นห้องต่างๆ 5 ห้อง ประกอบด้วย 1. ห้องทรงพระอักษรและห้องสมุด 2. ห้องรับแขก 3. ห้องเสวย 4. ห้องพระบรรทม 5. ห้องแต่งพระองค์และห้องสรง เมื่อพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตในปีพ.ศ. 2408 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดฯ ให้จัดห้องกลางในพระนั่งอิศเรศราชานุสรณ์ ซึ่งเป็นห้องเสวยเดิมให้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมอัฐิ ปัจจุบันพระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ จัดแสดงเครื่องเรือนยุโรป และจีน ตลอดจนของสะสมต่างๆ ในสมัยรัชกาลที่ 4-5 ตามลักษณะที่เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว"
แต่ก็ยังมีส่วนอื่นๆให้ได้ หาความรู้เพิ่มเติมกันได้อีก เช่น ห้องราชยานคานหาม ห้องมหรสพและการละเล่น ห้องเครื่องแต่งกายและผ้าโบราณ ห้องเครื่องดนตรี เงินตรา ธนบัตร แสตมป์ โรงราชรถ ที่ผู้เขียนก็สนใจ ไว้มีโอกาศคราวหน้าจะเข้าไปชมให้ได้ แต่ในวันที่ไปคนก็ไม่มากนัก ส่วนใหญ่ มีแต่นักเรียนมาเป็นกลุ่ม ทัศนาศึกษา นักศึกษา ผู้สูงอายุ ชาวต่างชาติ ด้วยควาที่เป็นวันธรรดาคนเลยไม่เยอะมากนัก แต่เห็นชาวต่างชาติมา ดูประวัติศาสตร์ของเราแล้วก็ดีใจไปด้วย แต่ถ้าได้เงิน ในการปรับปรุงบ้างส่วนมากกว่านี้ ก็คงจะดีไม่น้อย เราจะได้ มี พิพิธภัณฑ สวยงามไว้ อยู่คู่กันไปนานๆ
สุดท้าย พิพิธภัณฑ วลาทำการ 09.00 - 16.00น.
ปิดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และ ยังมี บริการนำชมภาษาต่างประเทศ โดยกลุ่มสตรีอาสาสมัคร ภาษาอังกฤษ นำชมเรื่องประวัติศาสตร์ศิลปะไทยและพระพุทธศาสนา
ทุกวันพุธ และพฤหัสบดี เวลา 9.30 น.
ภาษาฝรั่งเศส นำชมเรื่องศิลปะก่อนไทยและศิลปะไทย
ทุกวันพุธ และพฤหัสบดี เวลา 9.30 น.
ภาษาเยอรมัน นำชมเรื่องศิลปะและวัฒนธรรมไทย
ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 9.30 น.
ภาษาญี่ปุ่น นำชมเรื่องวัฒนธรรมไทย, เครื่องถ้วย และพระที่นั่งพุทไธสวรรย์
ทุกวันพุธ สัปดาห์ที่ 1 และ 2 ของเดือน เวลลา 9.30 น.
นำชมเรื่องศิลปะก่อนไทยและศิลปะไทย
ทุกวันพุธ สัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของเดือน เวลลา 9.30 น.














ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น